สิวอุดตันเป็นเม็ดตุ่มเล็กๆ ที่เกิดบริเวณผิวหน้าของเรา โดยมากจะเป็นชนิด สิวหัวขาว บางครั้งก็พบลักษณะมีจุดดำตรงกลาง เรียกสิวหัวดำ จึงเห็นได้ว่า สิวอุดตันชนิดนี้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ
o 1.สิวหัวเปิด(Open comedone) หรือ สิวหัวดำ (Black head) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 0.1-3 มิลลิเมตร และสังเกตดีๆ จะมีจุดดำอยู่ตรงกลาง ซึ่งจุดเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว, ไขมัน,และเชื้อ P.acnes อุดอยู่ในท่อเปิดของต่อมไขมัน
o 2.สิวหัวปิด (Closed comedone ) หรือ สิวหัวขาว (White head ) เป็นตุ่มนูนเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร มีสีเดียวกับผิวหนังปกติ สิวประเภทนี้เกิดจากการอุดตันสะสมอยู่ในท่อเปิดของต่อมไขมันและขุมขน (Pilosebaceous unit) แต่ท่อเปิดจะเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สิวหัวปิดขนาดใหญ่ อาจจะคงอยู่ได้ นานหลายสัปดาห์ หรือ หลายเดือน ประมาณ 75% ของสิวชนิดนี้จะกลายไปเป็นสิวอักเสบ
นอกจากนี้ยังอาจแบ่งสิวอุดตันได้อีกชนิดหนึ่ง คือ สิวอุดตันชนิดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Microcomedone) จากการตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ของผิวในบริเวณที่ดูปกติ ในบุคคลที่เสี่ยงต่อการเกิดสิว พบ Microcomedone ได้28% ข้อมูลดังกล่าวจึงสนับสนุนการใช้ยาทารักษาสิว แม้ในบริเวณที่ยังไม่มีสิวให้เห็น
3. สิวอักเสบ (Inflammatory acne)
สิวประเภทนี้เป็นการอักเสบของเม็ดอุดตัน โดยมีลักษณะเป็นเม็ดบวมแดง บางครั้งเป็นหัวหนอง หรืออาจจะกลายเป็นถุงซีสต์ ที่เรียกว่า "สิวหัวช้าง" โดยสิวอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดด้วยกัน นั่นคือ
สิวประเภทนี้เป็นการอักเสบของเม็ดอุดตัน โดยมีลักษณะเป็นเม็ดบวมแดง บางครั้งเป็นหัวหนอง หรืออาจจะกลายเป็นถุงซีสต์ ที่เรียกว่า "สิวหัวช้าง" โดยสิวอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดด้วยกัน นั่นคือ
o สิวชนิดตุ่มนูนแดง (Papule) มีขนาดแตกต่างกันออกไป ร้อยละ 50 ของสิวชนิดนี้เกิดจากสิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (microcomedone), 25% เกิดจากสิวหัวปิด และอีก 25% เกิดจากสิวหัวเปิด
o สิวหนอง (Pustule) มีได้หลายขนาด อาจตื้น หรือ ลึกก็ได้ ถ้าเป็นสิวหนองชนิดตื้นจะหายได้เร็วกว่าชนิดที่เป็นตุ่มนูนแดงแข็ง (papule) ส่วนสิวหนองชนิดลึกมักจะพบน้อยกว่า และพบในผู้ที่เป็นสิวค่อนข้างรุนแรง โดยเริ่มมาจากตุ่มนูนแดงแข็งก่อน อาจเป็นอยู่ได้นานมากกว่า 7 วัน มักมีอาการเจ็บร่วมด้วย และใช้เวลาในการหายประมาณ 2-6 สัปดาห์
o สิวอักเสบแดงเป็นก้อนลึก (Nodule) มักมีขนาดตั้งแต่ 8 มม. ขึ้นไป อาจใช้เวลาในการหายถึง 8 สัปดาห์ และมักจะทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นตามมาได้
o สิวเป็นถุงขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง (Cyst) พบได้ไม่บ่อย มักมีขนาดใหญ่ได้หลายเซนติเมตร ภายในบรรจุหนองหรือสารเหลวคล้ายเนย รอยโรคอาจรวมกันเป็นสิวขนาดใหญ่มากๆ ได้ สิวลักษณะนี้มักจะก่อให้เกิดรอยแผลเป็นเสมอ
o สิวเสี้ยน (Trichostasis spinulosa) สิวประเภทนี้พบได้ค่อนข้างบ่อยเลยค่ะ โดยเฉพาะ บริเวณจมูก, คาง, ลำตัวส่วนบน, ต้นแขน และหลังบริเวณระหว่างกระดูกสะบัก ถึงเราจะเรียกว่าเป็นสิวเสี้ยน แต่จริงๆ แล้วทางการแพทย์ไม่จัดว่าสิวเสี้ยน เป็นสิวนะค่ะ เพียงแต่ว่าเนื่องจากบริเวณที่พบสิวเสี้ยนเป็นบริเวณใกล้เคียงกับที่พบสิวโดยทั่วไป และก่อปัญหาทางด้านความงามได้พอๆ กับสิวแท้
โดยความจริงแล้ว สิวเสี้ยน นั่นก็คือ กลุ่มของขนอ่อน (Vellus hair)หลายๆ เส้นที่สะสมอุดตันอยู่ในรูขุมขน เห็นเป็นขนแหลมๆ สีดำ ยื่นออกมาจากรูขุมขน ในบริเวณดังที่กล่าวมาแล้ว
ส่วนกลไกของการเกิดสิวจริงๆ นั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ที่อาจเป็นไปได้ คือ มีการหนาตัวของเซลล์ชั้นหนังกำพร้าที่มากขึ้น จนมาปิดกั้นรูขุมขน ทำให้ขนที่สร้างขึ้นไม่สามารถหลุดออกไปได้
ยกตัวอย่างสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตัน เช่น จากความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ หรือความผิดปกติของสมดุลกรด-ด่าง ในร่างกาย เช่น ที่พบในผู้ป่วยไตวาย ส่วนจากปัจจัยภายนอก ก็อย่างเช่น การใช้สบู่ที่มีความเป็นด่างสูง ทำให้ผิวระคายเคือง, การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Paraffin, การสัมผัสกับฝุ่น สารประเภทไฮโดรคาร์บอน หรือน้ำมันในอุตสาหกรรมบางประเภท และมีบางการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างสิวเสี้ยน กับเชื้อPropionibacterium acnes และ Pityrosporum spp. ซึ่งเป็นเชื้อที่สัมพันธ์กับสิวแท้ด้วย
ยกตัวอย่างสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตัน เช่น จากความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ หรือความผิดปกติของสมดุลกรด-ด่าง ในร่างกาย เช่น ที่พบในผู้ป่วยไตวาย ส่วนจากปัจจัยภายนอก ก็อย่างเช่น การใช้สบู่ที่มีความเป็นด่างสูง ทำให้ผิวระคายเคือง, การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Paraffin, การสัมผัสกับฝุ่น สารประเภทไฮโดรคาร์บอน หรือน้ำมันในอุตสาหกรรมบางประเภท และมีบางการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างสิวเสี้ยน กับเชื้อPropionibacterium acnes และ Pityrosporum spp. ซึ่งเป็นเชื้อที่สัมพันธ์กับสิวแท้ด้วย
ปัจจุบัน คุณสามารถแก้ปัญหาและป้องกันการเกิดสิวทุกชนิดได้ง่ายดายด้วยผลิตภัณฑ์ สบู่พีเจ สกิน ดีพ คลีนเซอร์ ที่สามารถเห็นผลจากการใช้ตั้งแต่ก่อนแรกๆ
คุณสมบัติสบู่พีเจ สกิน ดีพ คลีนเซอร์
1.ขาว เนียน กระจ่างใสตรงจุดเพราะเพิ่มส่วนผสมของไวท์เทรนนิ่ง ลาก่อน จุดด่างดำ รอยสิว
2.สิว สิวเสี้ยน สิวอุดตัน รูขุมขนได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้น
1.ขาว เนียน กระจ่างใสตรงจุดเพราะเพิ่มส่วนผสมของไวท์เทรนนิ่ง ลาก่อน จุดด่างดำ รอยสิว
2.สิว สิวเสี้ยน สิวอุดตัน รูขุมขนได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้น
3.ผิวหน้านุ่ม มากๆกระชับ ไม่แห้งตึง
4.เหมาะกับทุกสภาพผิว ผิวแห้งก็ใช้ได้
วิธีใช้ : ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ผสมน้ำถูให้เกิดฟอง นวดคลึงทั่วใบหน้าและลำคอเว้นรอบดวงตา ฟอกทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพื่อผิวสะอาดล้ำลึก ควรล้างตามขั้นตอนซ้ำอีกครั้ง
4.เหมาะกับทุกสภาพผิว ผิวแห้งก็ใช้ได้
วิธีใช้ : ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ผสมน้ำถูให้เกิดฟอง นวดคลึงทั่วใบหน้าและลำคอเว้นรอบดวงตา ฟอกทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพื่อผิวสะอาดล้ำลึก ควรล้างตามขั้นตอนซ้ำอีกครั้ง
เลขที่ใบรับแจ้ง : 12-1-5600186
ปริมาณและราคา มี 2 ขนาด
50g ขายส่ง 90฿ ขายปลีก 150฿
100g ขายส่ง 150฿. ขายปลีก 250฿
สนใจทำธุรกิจ ติดต่อสั่งซื่อที่ คุณ ธนัสสณ์ นากสุก
(นุ้ย)
Tel.089-458-8053
ID
Line : 1832523
อีเมล์ panupon1982@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น